แปลและเรียบเรียงโดย : สรัสวดี โรจนกุศล
การเดินทางและการขนส่งในเมืองมีผลต่อสุขภาพของพลเมือง
การออกแบบเมืองที่ส่งเสริมให้ประชาชนมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น สามารถทำให้ทั้งประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น และทำให้สิ่งแวดล้อมของเมืองดีขึ้นตามมาด้วย ดังจะเห็นได้จากส่วนหนึ่งของงานวิจัยเรื่อง Urban and transport planning pathways to carbon neutral, liveable and healthy cities; A review of the current evidence ของ Mark J. Nieuwenhuijsen (2020) กล่าวถึง การวางแผนเมือง และการขนส่งที่ดีขึ้นสามารถนำไปสู่เมืองที่ปลอดคาร์บอน เป็นเมื่องน่าอยู่ และมีสุขภาพดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน (การสร้างพื้นที่สีเขียว สวนสาธารณะ) ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะหรือยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ในบทความได้ยกตัวอย่างการทดลองการทำ Superblock ในบาร์เซโลนา ประเทศสเปน จะเห็นได้ว่าภาพทางด้านซ้ายมือยานพาหนะสามารถใช้ถนนได้ทุกพื้นที่ และทางด้านขวาเป็นการทำ Superblock เส้นทางสีเขียวที่มีการจำกัดการใช้พื้นที่ถนนของยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ และปรับให้พลเมืองเดินหรือใช้จักรยาน ซึ่งข้อจำกัดในลักษณะแบบนี้ถือได้ว่าเป็นอีกแนวทางที่ทำให้พลเมืองสามารถเดิน หรือใช้จักรยานเข้าไปให้ถึงพื้นที่ได้อย่างสะดวก สบายปลอดภัยจากยานพาหนะอย่างอื่น และเป็นการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
รูปกระแสการจราจรในการทดลองการทำ Superblock ในบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
(Mark J. Nieuwenhuijsen ,2020)
จะเห็นได้ว่าการศึกษานี้กล่าวถึงการส่งเสริมให้พลเมืองมีการปรับเปลี่ยนโหมดการเดินทางในชีวิตประจำวัน โดยเลือกการเดินหรือการใช้จักรยาน (Active Transport) แทนการใช้ยานพาหนะประเภทอื่นให้มากขึ้น เพราะ “การเดินหรือการใช้จักรยาน สามารถทำให้สุขภาพทั้งคนและเมืองดีขึ้น” สุดท้ายเราขอย้ำกันสั้นๆ อีกสักครั้งนะคะว่า แค่คุณเลือก เดินหรือปั่นจักรยาน สิ่งที่คุณจะได้คือ “สุขภาพดี ฟรี สะอาด (เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม)”
แหล่งข้อมูลและที่มา:
Mark J. Nieuwenhuijsen (2020). Urban and transport planning pathways to carbon neutral, liveable and healthy cities; A review of the current evidence. สืบค้นจาก: https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0160412020302038
