Home ข้อมูลความรู้ บทความ การใช้จักรยานให้สายใยชีวิตที่สำคัญยิ่งระหว่างที่เกิดวิกฤต COVID-19

เรียบเรียงจาก : Biking Provides a Critical Lifeline During the Coronavirus Crisis โดย Alejandro Schwedhelm, Wei Li, Lucas Harms และ Claudia Adriazola-Steil, 17 เมษายน 2563

ช่องทางจักรยานฉุกเฉินในนครโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย เดือนมีนาคม 2563 (ภาพโดย Gabriel Leonardo Guerrero/iStock)

ในขณะที่โลกพยายามหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อยู่นี้ มาจนถึงช่วงกลางเดือนเมษายน 2563 ก็มีคนมากกว่า 3,900 ล้านคนแล้วที่ตกอยู่ภายใต้คำสั่ง “ปิดเมือง” อย่างเต็มที่หรือบางส่วน เมืองต่างๆ ได้ลดทอนบริการขนส่งมวลชนสาธารณะลงเป็นอันมากเนื่องจากมีผู้ใช้บริการน้อยลงและความกังวลในเรื่องการระบาด ในขณะที่มาตรการเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันการแพร่กระจายของโรค มันก็ได้สร้างความท้าทายให้คนจำนวนมากด้วยที่ยังจำเป็นต้องเดินทางไปรอบเมืองเพื่อประกอบกิจที่จำเป็น เช่น การซื้ออาหารหรือการดูแลคนอันเป็นที่รัก และการเดินทางสำหรับคนที่ทำงานสำคัญในสถานการณ์นี้ เช่น ผู้ดูแลสุขภาพ ก็ยิ่งสำคัญยิ่งกว่าช่วงเวลาใดๆ

หลักฐานบางประการชี้ว่า คนจำนวนมากได้หันไปใช้การขี่จักรยานเป็นทางเลือกที่ยืดหยุ่นและพึ่งพาได้ในการเติมช่องว่างที่เกิดขึ้นจากการขาดหายหรือลดลงไปของขนส่งมวลชนนั้น เครือข่ายทางจักรยานในเมืองจำนวนมากได้เห็นผู้มาใช้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเครือข่ายในจีน เยอรมนี ไอร์แลนด์ อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ในรัฐฟิลาเดลเฟีย การใช้จักรยานได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 150 ในระหว่างที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รัฐบาลบางแห่งตอบสนองต่อความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นนี้ด้วยการเปิดช่องทางจักรยานฉุกเฉินและให้คนที่ทำงานสำคัญนั้นเข้าถึงจักรยานของพวกเขาเป็นการส่วนตัวได้จากกองทัพจักรยานแบ่งปันกันใช้ที่มีอยู่

ในช่วงเวลาที่ผู้นำเมืองกำลังนำเอาสมมติฐานในอดีตจำนวนมากมาคิดใหม่ แนวโน้มนี้จึงเป็นโอกาสที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบใครในการโอบรับการใช้จักรยานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่แยกไม่ออกของระบบการขนส่งในเขตเมือง ไม่ใช่เป็นแค่องค์ประกอบเท่านั้น เมืองจำเป็นต้องมีวิธีการเดินทางที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และเท่าเทียมกันมากขึ้น ไม่เพียงแต่เพื่อฝ่าฟันพายุใหญ่ในปัจจุบัน แต่ยังเป็นการเตรียมไว้สำหรับรับมือกับวิกฤตการณ์ที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต

ในขณะที่มีการปิดเมืองจากการระบาดของ COVID-19 นั้น การใช้จักรยานได้อุบัติออกมาเป็นวิธีการที่ยืดหยุ่นในการดำรงชีวิตอยู่อย่างเชื่อมต่อกับผู้อื่น

ตลอดเวลาสองเดือนที่มีการปิดเมืองอู่ฮั่นในประเทศจีน ซึ่งเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 บรรดาอาสาสมัครใช้จักรยานไปส่งสิ่งของที่จำเป็นให้ผู้อยู่อาศัยที่ติดกับบ้าน บริษัทจักรยานแบ่งปันกันใช้บางบริษัทเพิ่มความพยายามฆ่าเชื้อ และให้บริการโดยไม่คิดมูลค่า อนุญาตให้คนทำงานทางการแพทย์และคนที่จำเป็นต้องใช้อย่างเร่งด่วนเข้าถึงระบบจักรยานนี้ได้

จากวันที่ 23 มกราคมไปจนถึงวันที่ 12 มีนาคม บริษัท Meituan Bikeshare ซึ่งก่อนหน้านี้รู้จักกันในชื่อ Mobike เอื้อให้มีการเดินทางประมาณ 2,300,000 (สองล้านสามแสน) เที่ยวในอู่ฮั่นโดยดูจากข้อมูลที่บริษัทเป็นผู้เก็บเอง ซึ่งคิดออกมาแล้วเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของการเดินทางที่ไม่ได้ทำด้วยการเดินทั้งหมดในเมืองนี้ในช่วงที่มีการระบาด มีคนใช้บริการทั้งหมด 286,000 คน โดยมีระยะทางที่ขี่จักรยานกันไปทั้งหมดกว่าสองล้านไมล์ หรือ 3.2 ล้านกิโลเมตร เท่ากับขี่จักรยานรอบโลกตรงเส้นศูนย์สูตร 81 รอบ ขณะเดียวกัน ระยะทางเฉลี่ยของการขี่รายวันสำหรับการขี่หนึ่งเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 แสดงให้เห็นถึงการพึ่งพิงจักรยานมากขึ้นสำหรับการเดินทางที่ไกลออกไปกว่าเดิม

มีแนวโน้มที่คล้ายคลึงกันนี้เกิดขึ้นในเมืองต่างๆ รอบโลก ระบบจักรยานแบ่งปันสาธารณะในนครนิวยอร์ค ซึ่งมีชื่อว่า Citi Bike มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นร้อยละ 67 เมื่อต้นเดือนมีนาคม เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน นครชิคาโกและฟิลาเดลเฟียมีคนใช้จักรยานในโครงการจักรยานแบ่งปันของเมืองเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงเดือนมีนาคม เส้นทางจักรยานเส้นหลักเส้นหนึ่งของฟิลาเดลเฟียมีการจราจรเพิ่มขึ้นร้อยละ 470 นครลอนดอนออกคำแนะนำพิเศษสำหรับผู้ใช้รายใหม่ และก่อนหน้าที่การปิดเมืองจะปิดร้านที่ไม่จำเป็นทั้งหมดและปิดการจราจรในนครดับลิน ร้านจักรยานในเมืองหลวงของไอร์แลนด์นี้มีธุรกิจดีอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

โครงสร้างพื้นฐานใหม่มาสนับสนุนการใช้จักรยานที่เพิ่มมากขึ้น

บางเมืองขยายโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการใช้จักรยานออกไปชั่วคราวหรืออย่างถาวรเพื่อตอบสนองกับการระบาดของ COVID-19 เมืองโบโกตาทดลองเปิดเครือข่ายซิโคลเวีย (Ciclovia) ซึ่งเป็นระบบของถนนที่ปกติแล้วจะปิดไม่ให้รถยนต์เข้าไปใช้เฉพาะในวันอาทิตย์ มาเปิดในวันอื่นของสัปดาห์ด้วย เป็นระยะทางยาว 22 ไมล์ (ราว 35 กิโลเมตร) ในโครงการนำร่องที่ดำเนินการโดย NUMO หรือ New Urban Mobility alliance (พันธมิตรการเดินทางในเมืองใหม่) เมืองนี้กับผู้ประกอบการจักรยานเอกชนเจ้าหนึ่งยังได้ให้เช่าจักรยานไฟฟ้ากับคนที่ทำงานด้านดูแลสุขภาพด้วย

นครโบโกตาก่อนเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับการใช้จักรยานเข้าไปเพิ่มเติมอีก 22 ไมล์ (ราว 35 กิโลเมตร) สีเขียวแสดงช่องทางจักรยานที่มีอยู่เดิม สีน้ำเงินแสดงช่องทางจักรยานชั่วคราวในช่วงที่เมืองให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้านเพื่อป้องกันการระบาดของ COVID-19

ฟิลาเดลเฟียตอบสนองต่อการเรียกร้องของสาธารณชนให้สร้างพื้นที่มากขึ้นให้ผู้ใช้จักรยานกับคนเดินเท้าเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างปลอดภัย ด้วยการปิดถนนยาว 4.4 ไมล์ (ราว 7 กิโลเมตร) ไม่ให้ยานยนต์เข้าไป นครเม็กซิโกซิตี้เสนอแผนทำโครงสร้างพื้นฐานสำหรับจักรยานชั่วคราว เป็นระยะทาง 80 ไมล์ (ราว 130 กิโลเมตร) มาบรรเทาความเสี่ยงในการใช้ขนส่งสาธารณะและเอื้ออำนวยการเดินทางของคนมากกว่า 21 ล้านคนในมหานครแห่งนี้ เมื่อเร็วๆนี้ เบอร์ลินได้นำช่องทางจักรยานชั่วคราวยาว 1 ไมล์ (1.6 กิโลเมตร) มาใช้บนถนนสายหลักและมีแผนจะขยายโครงสร้างพื้นฐานที่ยกระดับขึ้นไป พร้อมๆกับเมืองอื่นอีก 133 เมืองในเยอรมนี เมืองโอ๊คแลนด์ มินเนอาโปลิส เดนเวอร์ หลุยสวิลล์ แวนคูเวอร์ และคาลการี ได้นำมาตรการคล้ายคลึงกันมาใช้แล้ว นครนิวยอร์คมุ่งมั่นจะเพิ่มช่องทางจักรยานที่ได้รับการปกป้องชั่วคราวเป็นระยะทางเกือบ 1 ไมล์ (1.6 กิโลเมตร) ให้กับส่วนต่างๆ ของแมนฮัตตันกับบรุ๊คลิน และกำลังทดลองการปิดถนนไม่ให้รถยนต์เข้าไปใช้ด้วย

(นครฟิลาเดลเฟียหลังจากเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับการใช้จักรยานเข้าไป 4.4 ไมล์ (7 กิโลเมตร) สีเขียวแสดงช่องทางจักรยานที่มีอยู่เดิม สีเหลืองแสดงถนนที่ปิดชั่วคราวให้ใช้จักรยานในช่วงที่เมืองให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้านเพื่อป้องกันการระบาดของ COVID-19)

สร้างประเทศกลับขึ้นมาใหม่ให้ดีกว่าเดิม

การใช้จักรยานให้สายใยชีวิตที่สำคัญยิ่งแก่เมืองจำนวนมากในยามวิกฤต และยังเป็นวิธีการเดินทางขนส่งที่ยืดหยุ่น สามารถให้ประโยชน์ที่มีค่าต่อไปมากไปกว่าในเรื่องการเดินทางกับเมืองในอนาคตด้วย

1. การเข้าถึงจักรยานที่ดีขึ้นสามารถสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการระบาดของ COVID-19 สิ้นสุดลงได้ด้วย
ผลกระทบทางเศรษฐกิจทั่วโลกของวิกฤตโคโรนาไวรัสครั้งนี้ปัจจุบันก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว และยังคาดกันว่าจะเลวร้ายไปกว่านี้อีกข้างหน้า รัฐบาลหลายประเทศกำลังใคร่ครวญที่จะมีโครงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดมหึมาที่สามารถสร้างงานและกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ แต่ก็มีข้อพิจารณาอย่างแรงในแง่สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และเศรษฐกิจ ที่จะต้องหลีกเลี่ยงโครงการและโครงสร้างพื้นฐานที่ทำให้มีการเผาเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ (fossil fuels – น้ำมัน ถ่านหิน ฯลฯ) มากขึ้น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานไปสนับสนุนการใช้จักรยาน จากช่องทางจักรยานที่ได้รับการปกป้อง ที่จอดจักรยานจำนวนมาก ไปจนถึงโครงการจักรยานแบ่งปันใช้ร่วมกัน นี่แหละคือแบบของการลงทุนที่มีแต่ได้กับได้ ที่จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ในขณะที่ยับยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ลดมลพิษในอากาศ และปกป้องสุขภาพของมนุษย์

แต่ละกิโลเมตรที่เราใช้จักรยานแทนยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในขับเคลื่อนจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไป 250 กรัม ทำให้การใช้จักรยานเป็นทางเลือกหลักทางหนึ่งสำหรับการขนส่งคาร์บอนต่ำ ประมาณกันว่า ผู้ใช้จักรยานของนครโคเปนเฮเกนรวมๆ กันลดการปล่อยคาร์บอนปีละ 20,000 ตัน ซึ่งเท่ากับปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยออกมาจากรถยนต์ส่วนตัวที่ขับไปเป็นระยะทาง 50 ล้านไมล์ (80 ล้านกิโลเมตร)

ในขณะที่มีการผ่อนคลายลงในเรื่องการรักษาระยะห่างระหว่างคน และผู้คนสามารถกลับไปอุดหนุนร้านค้า ร้านกาแฟ และภัตตาคารร้านอาหารในท้องถิ่นด้วยตัวของเขาเองได้ การใช้จักรยานยังสามารถให้ตัวกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าได้ผลจริงแก่ถนนสายหลักและย่านพาณิชยกรรม มีการศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้จักรยานใช้จ่ายกับธุรกิจในท้องถิ่นโดยเฉลี่ยมากกว่าคนขับรถยนต์ถึงสามเท่า และการมีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการใช้จักรยานเกี่ยวพันกับยอดขายปลีกที่สูงขึ้น

2. การใช้จักรยานสามารถปรับปรุงสุขภาพและคุณภาพชีวิตของสาธารณชน
การใช้จักรยานมีผลกระทบในเชิงบวกกับสุขภาพของทุกคนจากการที่มันทำให้คุณภาพอากาศในเมืองดีขึ้น คนที่ใช้จักรยานเป็นประจำมีความสุขจากการได้รับประโยชน์ของการออกกำลังกายอย่างคงเส้นคงวา พวกเขามีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งน้อยลงร้อยละ 40 มีโอกาสเสียชีวิตก่อนวัยอันควรน้อยลงร้อยละ 40 และมีโอกาสน้อยลงมากกว่าร้อยละ 50 ที่จะเป็นโรคหัวใจ การศึกษาชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจาก COVID-19 เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ในพื้นที่ที่มีระดับมลพิษในอากาศสูงกว่า น่าจะเนื่องมาจากการที่มีสุขภาพของปอดแย่กว่า การใช้จักรยานให้ทางที่จะลดมลพิษทางอากาศในท้องถิ่นและเพิ่มกิจกรรมทางกาย ซึ่งปรับปรุงความยืดหยุ่นของเมือง

3. โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการใช้จักรยานสามารถช่วยให้เมืองยืดหยุ่นรับมือกับแรงช็อกในอนาคต
การเข้าถึงจักรยานได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสำคัญต่อคนที่ปฏิบัติการภายใต้สภาพเงื่อนไขทางเศรษฐกิจและการขนส่งที่มีขีดจำกัด การเคลื่อนที่เดินทางได้ที่เพิ่มขึ้นจากการใช้จักรยานในระหว่างที่ไฟฟ้าดับ มีภัยธรรมชาติ หรือการที่ระบบขนส่งในเมืองหยุดชะงัก เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ด้วยการให้พื้นที่บริการที่อาจจะใหญ่กว่าการเดินเพียงอย่างเดียวถึง 15 เท่า

โอบรับเอาการใช้จักรยานมาเป็นวิธีหนึ่งในการตอบสนองต่อวิกฤตการณ์

เนเธอร์แลนด์เป็นหนึ่งในชาติที่การใช้จักรยานประสบความสำเร็จมากที่สุดของโลก ประเทศนี้เป็นบ้านของช่องทางจักรยานที่ได้รับการปกป้องมากกว่า 23,000 ไมล์ (ราว 36,800 กิโลเมตร) และมีจักรยานมากกว่าคน ราวหนึ่งในสี่ของการเดินทางทั้งหมดทำด้วยจักรยาน เนเธอร์แลนด์ยังเป็นประเทศหนึ่งที่ปลอดภัยมากที่สุดสำหรับผู้ใช้จักรยาน โดยมีอัตราการเสียชีวิตต่อปีของผู้ใช้จักรยานเพียง 1.1 ต่อ 100,000,000 (หนึ่งร้อยล้าน) กิโลเมตรที่มีการใช้จักรยาน (เทียบกับ 5.8 ในสหรัฐอเมริกา)

สถานะเช่นนี้ของเนเธอร์แลนด์ไม่ใช่ว่าได้มาลอยๆ การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตอบรับต่อวิกฤตการณ์ความปลอดภัยทางถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เด็กๆ และต่อการห้ามส่งน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (OPEC) ในช่วงทศวรรษ 1970 รัฐบาลประกาศวันอาทิตย์เป็น “วันปลอดรถ” (car-free day) เมื่อปี พ.ศ. 2516 จากนั้นประเทศนี้ก็เริ่มประเมินความสัมพันธ์ของตนกับการใช้รถยนต์ใหม่อย่างช้าๆ

ในอีกกรณีหนึ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้สักหน่อย คือการใช้จักรยานได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นวิถีการเดินทางที่ยืดหยุ่นและพึ่งพาได้เมื่อเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในนครเม็กซิโกซิตี้เมื่อปี พ.ศ. 2560 การพังทลายของอาคารบ้านเรือนนับพันหลังทำให้ยานยนต์ไม่สามารถเข้าไปในถนนจำนวนมาก เมืองนี้จึงต้องพึ่งพาอย่างหนักกับจักรยานส่วนตัวและจักรยานของระบบจักรยานแบ่งปันที่มีอยู่มาเป็นพาหนะให้คนช่วยเหลือและอาสาสมัครกลุ่มแรกๆ นำอุปกรณ์ปฐมพยาบาลและสิ่งของที่จำเป็นต่างๆ เข้าไป

COVID-19 เป็นอีกวิกฤตการณ์หนึ่งที่ท้าทายเมืองทุกแห่งให้คิดว่า เครือข่ายขนส่งของเมืองอาจดำเนินการต่างไปจากที่เป็นมาได้อย่างไรบ้าง ถึงเวลาแล้วที่เมืองจะทดลองด้วยการใช้ถนนของตนเป็นพื้นที่ทดลองการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น Ross Center ของสถาบันทรัพยากรโลก (World Resource Institute – WRI) กำลังทำงานกับ NUMO และ Populus บริษัทที่ให้ข้อมูลการเคลื่อนที่เดินทางและเครื่องมือกับเมืองต่างๆ ไปวัดการเข้าถึงโอกาสในการมีงานทำและบริการที่จำเป็นอย่างยิ่ง เช่น โรงพยาบาลและร้านค้าปลีกเครื่องอุปโภคบริโภค ได้ดีขึ้นด้วยเครือข่ายของช่องทางจักรยานชั่วคราว

การปิดเมืองกักกันโรคเนื่องจาก COVID-19 ทุกวันนี้อาจเปิดเผยให้เห็นทางแก้ปัญหาที่มีประโยชน์กว้างไกลแก่เมืองต่างๆ ยาวออกไปในอนาคต ชี้ทางไปสู่การขนส่งในเมืองที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เข้าถึงได้มากขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น เมืองที่มีคนใช้จักรยานมากขึ้นเป็นเมืองที่มีคนสุขภาพดีขึ้น ถนนที่ปลอดภัยมากขึ้น อากาศที่สะอาดขึ้น และการเชื่อมโยงที่ดีขึ้น

Print Friendly, PDF & Email