Home ข้อมูลความรู้ บทความ เมืองอัจฉริยะแห่งศตวรรษที่ 21

กระบวนการเพื่อการนำไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City)
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจในยุคปัจจุบันซึ่งอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 21 ที่เมืองใหญ่จากทั่วทุกมุมโลกนั้นจะต้องมีการกำหนดโครงสร้างระบบการบริหารจัดการเมืองที่ดี เพื่อให้เกิดสภาพความเป็นอยู่ที่เหมาะสมสำหรับประชากรที่อยู่อาศัยภายในเมืองใหญ่

จากข้อมูลโดยทั่วไปนั้น อัตราเคลื่อนย้ายที่อยู่อาศัยของประชากรโลก ในแต่ละอาทิตย์มีประชากรจากทั่วโลกจำนวนกว่า 3.1 ล้านคน ได้ย้ายถิ่นฐานเพื่อเข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่เมืองใหญ่ และได้มีการคาดการณ์ว่าภายในปี ค.ศ 2040 ประชากรโลกที่เคลื่อนย้ายเข้ามาอาศัยภายในพื้นที่ในเมืองใหญ่จะมีอยู่ประมาณ 65% คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกทั้งหมด

ก้าวสำคัญสำหรับการนำไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ
ในการที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะได้นั้น ระบบการบริหารจัดการภายในเมืองใหญ่จะต้องไม่มีเฉพาะแผนบริหารจัดการในด้านความเจริญและความมั่งคั่งในด้านเศรษฐกิจเพียงเท่านั้น แต่จะต้องมีแผนเพื่อการพัฒนาในด้านคุณภาพชีวิตของประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการจะสามารถเข้ามาสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ(Smart City)ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ในปัจจุบันนี้เราสามารถดูข้อมูลอินโฟร์กราฟิคโดยรวมของการเข้าสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ ได้ที่ www.postscapes.com เพื่อช่วยให้สามารถเห็นภาพรวมและรับทราบสิ่งที่จำเป็นในการที่จะเปลี่ยนเมืองใหญ่ธรรมดาเป็นเมืองอัจฉริยะได้ในอนาคต และมีส่วนช่วยในการหาข้อมูลตัวอย่างด้านเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสม เพื่อที่จะสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ในสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะภายในเมืองใหญ่ เพื่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน ผู้อาศัยอยู่ภายในเมืองใหญ่

โครงสร้างสำคัญสำหรับเมืองอัจฉริยะในอนาคต
เมืองอัจฉริยะในอนาคตจะต้องมีการลดใช้พลังงานไฟฟ้าและเน้นมาใช้พลังสะอาดเช่นพลังงานจากแสงอาทิตย์ และ มีอินเตอร์เน็ต Wi – Fi ครอบคลุมพื้นที่สาธารณะต่างๆภายในเมือง รวมถึงต้องมีแอปพริเคชั่นในมือถือเพื่อประชาชนทั่วไปที่อาศัยในเมืองใหญ่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารในด้านต่างๆ เช่น ข้อมูลการคมนาคม, ข้อมูลด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นต้น เพื่อความยกระดับคุณภาพชีวิตทั้งในด้านของความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ และ ความปลอดภัย

สำหรับแนวทางเพื่อนำไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะนั้นสามารถแบ่งเป็น 6 หัวข้อดังต่อไปนี้
1.ด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure)
มีระบบแสงอัจฉริยะ (Smart Lighting) ซึ่งระบบแสงอัจฉริยะนั้นเป็นระบบที่ใช้แสงธรรมชาติจากดวงอาทิตย์เพื่อลดการใช้ที่แสงที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งระบบนี้สามารถช่วยลดการใช้พลังงาน และ ช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าหลอดไฟธรรมดาที่ใช้อยู่ปัจจุบัน

2.ด้านอาคาร (Building)
มีการนำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้สำหรับการจัดการด้านพลังงานภายในอาคาร อาทิ เช่น ด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในอาคารสำนักงาน , ควบคุมการใช้แสงสว่างภายในอาคาร เป็นต้น รวมถึงมีการผลักดันนำแผงโซล่าเซลล์มาบูรณาการในการออกแบบอาคารแทนการใช้ระบบไฟฟ้าภายในอาคารสำนักงานในรูปแบบเดิม และ ในด้านตัวอาคารต้องมีเทคโนโลยีความปลอดภัยในกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในอาคาร ระบบเทคโนโลยีที่ใช้จะต้องสามารถควบคุมเพลิงใหม่ได้ทุกห้องภายในอาคารสำนักงาน

3. ด้านสาธารณูปโภค (Utilities)
มีระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ(Smart Grids) ซึ่งช่วยเชื่อมต่อโครงข่ายผ่านมิเตอร์อัจฉริยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถนำประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน โดยในระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะจะทำการเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศ และ ระบบสื่อสารเข้าไว้ด้วยกัน และ สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนซึ่งเป็นพลังงานสะอาด

4. ด้านการคมนาคม(Transport)
สนับสนุนให้มีการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ จัดให้มีเครื่องชาร์ตไฟฟ้าบริเวณพื้นที่สาธารณะ เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงจัดให้มีพื้นที่การสัญจรคมนาคมสำหรับผู้ใช้จักรยานและเดิน โดยมีการจัดสรรพื้นที่ร่วมกันโดยมีเลนเร็ว(Fast Lanes) สำหรับผู้ที่ขับขี่รถทั่วไป และ เลนช้า (Slow Lanes) สำหรับผู้ที่ปั่นจักรยาน และ ผู้ที่ต้องการเดินสัญจรไปมา

5.ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment)
มีระบบการพัฒนาอาคารเขียว(Green Building) สนับสนุนการออกแบบและสร้างอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถใช้พื้นที่ดาดฟ้าของอาคารสำนักงานนำมาใช้เป็นพื้นที่ในการปลูกต้นไม้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มออกซิเจน และ ลดคาร์บอนไดร์ออกไซด์(CO2)ในชั้นบรรยากาศ รวมถึงต้องมีระบบการจัดการควบคุมมลพิษทางอากาศไปพร้อมกับการหันมาใช้พลังงานทดแทน(Renewable Energy) และพัฒนาพื้นที่ภายในเมืองเพื่อเพิ่มจำนวนพื้นที่สีเขียวภายในเมืองใหญ่ให้มีมากขึ้น

6. ด้านการใช้ชีวิต (Life)
จัดให้มีระบบอินเตอร์เน็ต Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะเพื่อการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาชน และมีระบบฐานข้อมูลที่สามารถอัปเดตข้อมูลได้แบบ Rea-Time เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงข้อมูล และ เพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิต ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลการจราจรในแต่ละเส้นทางแบบ Real – Time เพื่อให้ประชาชนสามารถเช็คข้อมูลการจราจรเพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจในการเดินทาง รวมถึงมีระบบที่ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลพื้นที่ว่างสำหรับการจอดรถ( Parking Spaces) เพื่อความสะดวกของประชาชนในการหาที่จอดรถในแต่ละพื้นที่ เป็นต้น
หน่วยงาน Cisco ได้คาดการณ์ว่า หากเมืองใหญ่ต่างๆสามารถขับเคลื่อนนโยบายเพื่อเข้าสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะได้สำเร็จ และสามารถบริหารจัดการเมืองและดำเนินงานตามแผนทั้งหมด 6 หัวข้อ ดังที่กล่าวข้างต้น เมืองนั้นจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพใช้พลังงานที่ดีขึ้น ( Energy Efficiency) โดยจะมีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ภายในระยะเวลา 20 ปี

เรียบเรียงและแปลโดย: นนทนีย์ วิบูลย์กุล


ที่มา : Reference
https://www.scimath.org/article-physics/item/4837-smart-grid
https://www.weforum.org/agenda/2019/01/the-anatomy-of-a-smart-city/

 

Print Friendly, PDF & Email
dari narik angkot jadi investor semua berkat scatter mahjong ways 3penjual gorenagan sukses jp mahjong wins 2 modalnya buat bisnis naik 100x lipatmahjong deposit receh membantumenang mahjong kecipratan profitkang somay sepeda ini ganti jadi motor berkat maxwin mahjong wins rp 32 jutamodal konsisten jp mahjong ways 2black scatter jadi cepat mengalir mahjong wins 3 dengan deposit qris jadi kuncinyamaxwin mahjong wins asal sabarpromosi mahjong ways 2slot gacorslot rtp gacorkaisar89