Home ข้อมูลความรู้ บทความ ไมโครโมบิลิตี้เติมช่องว่างที่เกิดขึ้นได้เมื่อผลกระทบของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขยายออกไป

(เรียบเรียงจาก As the Impacts of Coronavirus Grow, Micromobility Fills in the Gaps, 24 มีนาคม 2563)


ในขณะที่การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ก่อความโกลาหลให้กับชีวิตประจำวันของผู้คนไปทั่วโลก หลายสิ่งหลายอย่างก็กำลังเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งวิธีที่คนเดินทางไปไหนมาไหนด้วย  สถาบันเพื่อนโยบายการขนส่งและการพัฒนา (Institute for Transport and Development Policy – ITDP) จึงได้พัฒนาคำนิยามสำหรับไมโครโมบิลิตี้ (micromobility) ขึ้นมาและพยายามช่วยเมืองต่างๆ จัดทำโครงสร้างพื้นฐานให้สนับสนุนการเดินทางทุกแบบได้ดียิ่งขึ้น

ในขณะที่เขียนบทความชิ้นนี้ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กำลังขัดจังหวะการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนในหลายทาง รวมทั้งการจำกัดการเดินทางประจำวัน ซึ่งจำนวนมากเป็นการเดินทางเพื่อไปทำงาน โดยเปลี่ยนมาทำงานที่บ้านเป็นทางเลือก ไปถึงขั้นการปิดบ้านปิดเมืองให้อยู่บ้านกันทั้งหมด  ในขณะที่คำแนะนำที่ให้กันออกมาทั่วไปมากที่สุดยังคงเป็นให้จำกัดการเดินทาง  การมีทางเลือกอื่นที่พึ่งได้และค่าใช้จ่ายไม่สูงเกินไปจึงมีความสำคัญในตอนนี้มากกว่าช่วงใดที่ผ่านมา  มหานครนิวยอร์คได้เพิ่มพื้นที่มากขึ้นให้จักรยานและผู้ใช้ไมโครโมบิลิตี้เพื่อสนับสนุนการปรับเปลี่ยนอย่างฉับพลันไปสู่วิถีการเดินทางบนถนนที่ทำเป็นรายย่อยของปัจเจกชนแต่ละคนแทนการขนส่งมวลชนจำนวนมากไปด้วยกัน  เมืองโบโกตาในประเทศโคลอมเบียได้เพิ่มช่องทางจักรยาน รวม 76 กิโลเมตรในชั่วคืนเดียว เพื่อรองรับผู้ใช้จักรยานให้ได้มากขึ้น โดยที่ยังมีการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลไว้  นครอย่างเม็กซิโกซิตี้กับลอนดอนได้เห็นประโยชน์จากการใช้เวลาหลายปีสร้างขยายเครือข่ายการใช้จักรยานออกไป และขณะนี้กำลังจะทำให้มาตรการส่งเสริมการใช้จักรยานต่างๆ ที่เดิมเป็นมาตรการชั่วคราวกลายเป็นมาตรการถาวร  มีเรื่องราวที่บอกเล่าเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยไปทุกแห่งถึงการที่ผู้คนเปลี่ยนจากการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนมาเป็นการใช้จักรยานและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในที่ที่วิธีการเดินทางแบบนี้มีให้เลือก

การเปลี่ยนวิธีเดินทางเช่นนี้มีผลไม่เพียงแต่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดไปทั่วโลกของ COVID-19 เท่านั้น หากมีผลต่อความยืดหยุ่นโดยรวมของเมืองๆ หนึ่งด้วย  ไม่ว่าจะเป็นการรับมือต่อการระบาดของโรค พายุที่รุนแรง คุณภาพอากาศที่เลวร้าย หรือผลอื่นๆ ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพราะเมืองต่างๆ ยังจะต้องเผชิญกับสถานการณ์เหล่านี้ต่อไปและต้องพยายามฝ่าผ่านความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นให้ได้  เพื่อให้เมืองเดินหน้าไป เราจำเป็นต้องมีทางเลือกทุกทางที่เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นรถประจำทาง รถไฟฟ้า รถแท็กซี่ที่แบ่งปันกันใช้ การเดิน และแน่นอน ไมโครโมบิลิตี้ที่กำลังเติบโตขึ้น ควรเป็นส่วนหนึ่งของแผนสร้างความยืดหยุ่นของเมืองทุกเมืองด้วย

การแพร่ระบาดของ COVID-19 ครั้งนี้ได้สร้างให้เกิดการยอมรับถึงความสำคัญของหนทางรับมือสถานการณ์ รวมไปถึงการใช้จักรยานและไมโครโมบิลิตี้ ที่แม้จะดูเป็นวิธีการเล็กๆ แต่สามารถพาเราไปยังที่ต่างๆ ในเมืองได้อย่างปลอดภัยและยืดหยุ่น


ในเมืองต่างๆ ที่มีประชากรมากที่สุดของโลก การเดินทางส่วนใหญ่ทำด้วยการเดิน การใช้จักรยาน และขนส่งมวลชนอยู่แล้ว  ตัวอย่างเช่นเมืองจำนวนมากในอินเดียมีการเดินทางที่ทำด้วยรถยนต์น้อยกว่าร้อยละ 10  การยกระดับการให้ความสำคัญในลำดับแรกๆ แก่วิธีเดินทางที่เป็นไมโครโมบิลิตี้ จะให้ทางเลือกที่เป็นพาหนะส่วนตัวอีกอย่างหนึ่งกับผู้เดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมันได้รับการบูรณาการเข้าไปกับวิธีเดินทางอื่นๆ และทุกคนสามารถจ่ายไหว

ไมโครโมบิลิตี้ คืออะไร
ไมโครโมบิลิตี้ (Micromobility) เป็นคำศัพท์คำหนึ่งที่คืบคลานเข้ามาเป็นภาษาที่ใช้กันเฉพาะในหมู่นักผังเมือง นักวางแผน และแม้กระทั่งในโลกเทคโนโลยี  อย่างไรก็ตามไม่มีความเห็นที่เป็นเอกฉันท์ชัดเจนว่า ไมโครโมบิลิตี้หมายความว่าอะไรจริงๆ  จากการปรึกษาหารือกับชุมชนขนส่งยั่งยืนในวงกว้าง ITDP ได้พัฒนานิยามของไมโครโมบิลิตี้ขึ้นมาชุดหนึ่ง ซึ่งอธิบายไมโครโมบิลิตี้ออกมาเป็น ครอบครัวของอุปกรณ์น้ำหนักเบาที่ให้ความเร็วในการใช้งานธรรมดาน้อยกว่า 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเหมาะกับการเดินทางไม่เกิน 10 กิโลเมตร  ไมโครโมบิลิตี้อาจจะเป็นอุปกรณ์ส่วนตัวหรือที่ใช้ร่วมกัน-แบ่งปันกันใช้ก็ได้ ใช้พลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานของคนผู้ขับเคลื่อนเองก็ได้  อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ที่มีความเร็วสูงสุดเกินกว่า 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรืออุปกรณ์ที่ได้พลังงานมาจากเครื่องยนต์สันดาป(เผาไหม้)ภายใน ไม่ใช่ไมโครโมบิลิตี้   ตัวอย่างเช่นรถจักรยานยนต์และรถสกู๊ตเตอร์ใช้เครื่องยนต์ไม่ได้ถูกรวมไว้ในคำนิยามนี้  เนื่องจากอุปกรณ์ใหม่นี้จะขยายตัวต่อไป คำนิยามนี้จึงหมายให้ครอบคลุมวิธีการเดินทางทั้งในปัจจุบันและจะเป็นไปในอนาคต

เนื่องจากไม่มีคำนิยามที่เห็นชอบร่วมกันเป็นเอกฉันท์สำหรับไมโครโมบิลิตี้ เมืองต่างๆ จึงต้องดิ้นรนทำให้กฎระเบียบเป็นมาตรฐานใช้ได้กับวิธีการเดินทางหลายแบบ  องค์กรอย่างเช่นสมาคมเพื่อวิศวกรรถยนต์ (Society for Automotive Engineers – SAE) และเวทีขนส่งระหว่างประเทศ (International Transport Forum – ITF) ได้พัฒนาแนวทางการจัดประเภทสำหรับวิธีการเดินทางด้วยไมโครโมบิลิตี้แบบต่างๆ โดยใช้น้ำหนัก ความเร็ว และพลังงานที่ใช้ มาเป็นฐานในการพิจารณา  คำนิยามของ ITDP สร้างขึ้นมาบนความพยายามเหล่านี้ แต่ให้คำนิยามที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา สำหรับไมโครโมบิลิตี้ที่สามารถนำมาใช้และเข้าใจได้โดยผู้มีส่วนได้เสียต่างๆ จำนวนมาก จากผู้กำกับดูแลเมืองไปจนถึงผู้สื่อข่าวและสาธารณชน  การมีคำนิยามที่ชัดเจนทำให้เมืองมีพลังขึ้น โดยเฉพาะเพื่อที่จะกำหนดให้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า วิธีการเดินทางแบบไหนควรจะได้มาใช้โครงสร้างพื้นฐานที่สร้างไว้ให้จักรยาน (ซึ่งคำตอบคือไมโครโมบิลิตี้ใดๆ ที่มีความเร็วสูงสุด 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และที่ไม่ควรได้ใช้ (ซึ่งคำตอบคือ อุปกรณ์ที่ให้ความเร็วได้สูงไปกว่านั้นอย่าง moped หรือจักรยานที่ใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนทั้งหมด ไม่ต้องถีบ-ปั่นแต่อย่างใด และจักรยานยนต์แบบที่เรารู้จักกันคือใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน)

แนวคิดหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นคือ ความคิดที่ให้ออกแบบช่องทางจราจรสำหรับ(พาหนะ)ขนส่งเบาเป็นรายคน (Light Individual Transport – LIT) ใช้ได้เฉพาะการเดินทางด้วยไมโครโมบิลิตี้มากขึ้น นอกเหนือจากจักรยาน  ช่องทาง LIT นี้แยกผู้ใช้ไมโครโมบิลิตี้ในทางกายภาพออกจากการจราจรด้วยยานพาหนะอื่นบนถนนและคนเดินบนทางเท้าข้างถนน สอดคล้องกับการมีทางเฉพาะสำหรับจักรยานหรือช่องทางจราจรของจักรยานที่ได้รับการปกป้อง (protected bicycle lane – PBL)  หลายเมืองในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งแอตแลนต้าและพอร์ตแลนด์ ได้รับเอาศัพท์นี้ไปใช้แล้ว และองค์กรอย่าง ITF ได้เรียกร้องให้มีรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ LIT ที่นิยามออกมาชัดเจนมากขึ้น

ในขณะที่เราทำสงครามสู้รบกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกทางด้านสาธารณสุข การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความปลอดภัยบนท้องถนน  เราไม่สามารถพลาดโอกาสนี้โดยไปให้ความสำคัญในลำดับแรกแก่การขนส่งที่ใช้เครื่องยนต์ได้  นี่เป็นเวลาที่เมืองต่างๆ จะตอบสนองด้วยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับไมโครโมบิลิตี้ และการทำให้พื้นที่บนถนนของเรารองรับการเดินทางด้วยไมโครโมบิลิตี้  นี่ต้องเกิดขึ้นพร้อมๆ ไปกับการออกนโยบายมาทำให้ผู้ใช้ไมโครโมบิลิตี้จำนวนมากปลอดภัย และกระตุ้นให้คนมากขึ้นเปลี่ยนวิธีการเดินทางมาใช้ไมโครโมบิลิตี้


ในจีน เช่นเดียวกับอีกในชาติอื่นจำนวนมาก การใช้จักรยานได้กลายมาเป็นทางเลือกวิธีการเดินทางนับแต่เริ่มมีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019   อย่างไรก็ตาม ไม่มีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานขึ้นมารองรับความต้องการของผู้ใช้ และคนจำนวนมากต้องขี่จักรยานร่วมผสมไปกับการจราจรทั่วไป

ทำไม micromobility ถึงสำคัญ?
เมืองต่างๆ มีประชากรอยู่อาศัยหนาแน่นมากยิ่งขึ้นต่อไปตามการเติบโตดังที่มีการพยากรณ์ไว้  องค์การสหประชาชาติคาดการณ์ไว้ว่าประชากรโลกสองในสามจะเป็นผู้อยู่อาศัยในเมืองในปี พ.ศ. 2593 หรืออีกสามสิบปีข้างหน้า  นี่หมายความว่าคนจำนวนมากขึ้นในเมืองจะจำเป็นต้องเข้าถึงบริการการเคลื่อนที่เดินทางที่ยืดหยุ่น พึ่งพาได้ และมีค่าใช้จ่ายไม่สูงเกินไป-พวกเขาจ่ายไหว สำหรับการเดินทางแบบต่างๆ จำนวนมาก  เรารู้แล้วว่าเมืองไม่มีพื้นที่พอในการเคลื่อนและเก็บรถยนต์ส่วนตัวสำหรับผู้อยู่อาศัยใหม่ทุกคน และการจราจรติดขัดทำให้การขับรถยนต์ส่วนตัวสามารถแข่งขันกับวิธีการเดินทางอื่นได้น้อยลงในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน  นี่ไม่ต้องพูดถึงการคุกคามต่อความปลอดภัยและคุณภาพอากาศที่รถยนต์มีต่อทุกคน

เมืองต้องคิดใหม่ถึงภูมิทัศน์ถนนของตนเพื่อปรับให้เข้ากับความต้องการในการเดินทางที่กำลังเปลี่ยนไปของผู้อยู่อาศัย ซึ่งหมายถึงการสร้างพื้นที่ใช้งานที่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ นั่นคือคนเดินเท้าและคนที่ใช้ไมโครโมบิลิตี้  เมื่อคำนึงว่าการเดินทางในเมืองส่วนใหญ่มีระยะทางน้อยกว่าห้ากิโลเมตร ไมโครโมบิลิตี้จึงเป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบให้คนเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างรวดเร็ว เป็นอิสระ และที่สำคัญที่สุด ไม่สร้างและปล่อยมลพิษที่เป็นอันตราย  ความนิยมในหมู่ผู้ใช้ระเบิดขยายตัวพรวดพราดในช่วงสองปีที่ผ่านมา และระบบจักรยานกับสกู๊ตเตอร์แบ่งปันกันใช้มีผู้ใช้เพิ่มเป็นสองเท่าในช่วงปีที่ผ่านมา  การเติบโตของผู้ใช้ไมโครโมบิลิตี้ได้กระตุ้นให้มีการเรียกร้องอีกครั้งมากขึ้นให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยที่ทำให้การจราจรสงบลงและแยกผู้เดินทางที่ไม่ได้ใช้ยานพาหนะ(รถยนต์) จากยานพาหนะและคนเดินเท้า   ITDP เสนอแนะว่า ถนนที่มีความเร็วของยานพาหนะสูงกว่าคือมากถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจำนวนยานพาหนะมากกว่า ให้มีช่องทางจักรยานหรือ LIT ที่ได้รับการป้องกันสำหรับผู้ใช้ไมโครโมบิลิตี้ ถนนที่ไม่มีช่องทางที่ได้รับการป้องกันควรเป็นถนนที่มีความเร็วต่ำ โดยจำกัดความเร็วของยานพาหนะไว้ที่ไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  โครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุน เช่น ทางหลวงจักรยาน (cycle highway) และที่จอดที่จัดไว้ให้เป็นการเฉพาะ ทำให้มีสภาพที่ปลอดภัยมากกว่าและสะดวกมากกว่าสำหรับผู้ใช้ไมโครโมบิลิตี้

ในขณะที่ไมโครโมบิลิตี้เติบโตและวิวัฒนาการต่อไป เมืองจะจำเป็นต้องสนับสนุนวิธีการเดินทางประเภทนี้ด้วยระเบียบวาระที่ก้าวหน้าและนโยบายการคิดไปข้างหน้า  ไมโครโมบิลิตี้อยู่บนเส้นทางที่จะกลายเป็นวิธีการขนส่งที่มีคาร์บอนต่ำ ปลอดภัย และเป็นที่นิยม ในระหว่างที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และหลังจากนั้น

ความเป็นจริงใหม่ที่เราพบว่าตัวเองเข้าไปอยู่นี้ เป็นโอกาสให้เปลี่ยนแปลงการคิดที่มีอยู่ในปัจจุบันถึงวิธีที่คนเดินทางไปไหนมาไหน และการให้ความสำคัญอันดับต้นๆ กับการจัดพื้นที่ในเมืองของเราให้รถยนต์ส่วนบุคคล ไม่ใช่หนทางไปข้างหน้าที่ยืดหยุ่นอีกต่อไป
———————————————————————————————–
ข้อความในภาพWHAT IS MICROMOBILITY? ไมโครโมบิลิตี้ (Micromobility) คืออะไร

ไมโครโมบิลิตี้ (micromobility) หมายถึงอุปกรณ์ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ที่ทำให้เดินทางได้ด้วยความเร็วโดยทั่วไปต่ำกว่า 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (15 ไมล์ต่อชั่วโมง) และเป็นสิ่งที่ดีเลิศสำหรับการเดินทางไม่เกิน 10 กิโลเมตร

ไมโครโมบิลิตี้อาจ: Micromobility can be:- ใช้แรงคนหรือไฟฟ้า- เป็นอุปกรณ์ส่วนตัวหรืออุปกรณ์ที่แบ่งปันกันใช้- โดยทั่วไปที่สุดมีความเร็วต่ำ (ความเร็วสูงสุด 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) หรือบางครั้งมีความเร็วปานกลาง (ความเร็วสูงสุด 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

ไมโครโมบิลิตี้ไม่อาจ: Micromobility cannot be:- ได้พลังจากเครื่องยนต์สันดาปภายใน- มีความเร็วสูง (ความเร็วสูงสุดเกิน 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

ไมโครโมบิลิตี้เพิ่มการเข้าถึงขนส่งสาธารณะ Micromobility increases access to public transportation- ใช้แทนรถยนต์สำหรับการเดินทางระยะสั้น

คนส่วนใหญ่ในเมืองไม่ได้เป็นเจ้าของรถยนต์ ไมโครโมบิลิตี้คลายล็อคเมืองมากขึ้นให้คนมากขึ้น

อุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าทำให้ไมโครโมบิลิตี้น่าสนใจสำหรับคนที่อาจไม่ได้ใช้พาหนะสองล้อหรือสามล้อมาแต่เดิม ไมโครโมบิลิตี้ไฟฟ้าขยายพื้นที่ที่ผู้ขับขี่สามารถเดินทางไ.ปได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีรถยนต์

WHERE CAN MOBILITY GO?   ไมโครโมบิลิตี้ไปไหนได้บ้าง?
Safe “micromobility corridors” ฉนวนไมโครโมบิลิตี้ทำให้คนจำนวนมากขึ้นเข้าถึงสถานที่ได้มากขึ้นอย่างเท่าเทียมกัน

1. Protected Bicycle Lanes (PBLs) ช่องทางจักรยานที่ได้รับการป้องกัน ซึ่งขณะนี้เรียกกันมากขึ้นว่า ช่องทางขนส่งเบาเป็นรายคน (Light Individual Transport หรือ LIT) แยกผู้ใช้ไมโครโมบิลิตี้ออกจากยานพาหนะและคนเดินเท้า  PBLs ควรจะได้รับการออกแบบให้รองรับได้ทั้งไมโครโมบิลิตี้ที่ใช้ไฟฟ้าและไม่ใช้ไฟฟ้า (กว้างอย่างน้อย 2 เมตรสำหรับช่องทางที่มีการเคล่อนที่ไปทางเดียว และ 2.5 เมตรสำหรับช่องทางให้เคลื่อนที่ไปได้สองทาง  อนุญาตเฉพาะอุปกรณ์ที่มีความเร็วต่ำเท่านั้น

2. Cycle Highways ทางหลวงจักรยาน เสริมช่องทางที่ได้รับการป้องกันในเมืองด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ออกแบบมาสำหรับการเดินทางด้วยไมโครโมบิลิตี้ไปในระยะทางไกลกว่า เช่น ระหว่างศูนย์กลางชุมชนที่เป็นเพื่อนบ้านกัน  อนุญาตให้ใช้อุปกรณ์ไมโครโมบิลิตี้ได้ทุกอย่าง

3. Slow Streets ถนนช้า (จำกัดความเร็วยานพาหนะ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ตั้งจำกัดความเร็วไว้ให้ช้าสำหรับถนน โดยเฉพาะถนนที่ไม่มีช่องทางที่ได้รับการป้องกันที่ผู้ใช้ไมโครโมบิลิตี้จะขับขี่ไปในช่องทางที่ไม่ได้รับการป้องกันหรือในกระแสการจราจรที่มีวิธีการเดินทางหลายอย่างผสมกันไป

4. Primary Streets ถนนแบบเดิม (จำกัดความเร็วยานพาหนะไว้มากถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)  ถนนที่มีการจำกัดความเร็วไว้สูงกว่าและมีปริมาณการจราจรสูงกว่า ควรมีช่องทาง LIT ที่ได้รับการป้องกัน  อุปกรณ์ที่มีความเร็วปานกลางควรควบคุมความเร็วตนเองไว้ต่ำกว่า 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ไปใช้ช่องทางที่ได้รับการป้องกัน หรือควรขี่ในถนน

Supportive Policies and Structures  นโยบายและโครงสร้างที่สนับสนุน
ที่จอดที่กำหนดไว้: รองรับไมโครโมบิลิตี้ทุกชนิดและเอาอุปกรณ์เดินทางเหล่านี้ออกไปจากทางที่เป็นสิทธิ์ของคนเดินเท้า
บังคับใช้กฎระเบียบ: จักรยานยนต์และอุปกรณ์ที่มีความเร็วสูงอื่นๆ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในช่องทางที่ได้รับการป้องกัน

Print Friendly, PDF & Email
dari narik angkot jadi investor semua berkat scatter mahjong ways 3penjual gorenagan sukses jp mahjong wins 2 modalnya buat bisnis naik 100x lipatmahjong deposit receh membantumenang mahjong kecipratan profitkang somay sepeda ini ganti jadi motor berkat maxwin mahjong wins rp 32 jutamodal konsisten jp mahjong ways 2black scatter jadi cepat mengalir mahjong wins 3 dengan deposit qris jadi kuncinyamaxwin mahjong wins asal sabarpromosi mahjong ways 2slot gacorslot rtp gacorkaisar89