Home ข้อมูลความรู้ บทความ ครบรอบหนึ่งปีการล็อกดาวน์กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง?

แปลและเรียบเรียงโดย : สรัสวดี โรจนกุศล และอัจจิมา มีพริ้ง

 

จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ครั้งแรกเมื่อปลายปี 2562 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นบ้างในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

การล็อกดาวน์ของเบลเยียม เริ่มต้นเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2563 นาย Philippe Close นายกเทศมนตรีเมืองบรัสเซลส์ ประกาศว่า นับจากวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ห้ามรถยนต์ผ่านสวนบัว ดู ลา คอมบร์ (Bois de la Cambre) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีถนนตัดผ่านระยะทาง 6 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่คนขับรถยนต์ผ่านเป็นจำนวนมาก เพื่อใช้เป็นเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างเมือง และชานเมืองทางใต้ มาตรการนี้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เพราะนอกจากเป็นมาตรการรักษาระยะห่างแล้ว ผู้คนที่มาใช้สวนสาธารณะเพื่อพักผ่อนหย่อนใจแล้ว ยังสามารถลดผลกระทบจากเสียงเครื่องยนต์ และควันรถอีกด้วย

ลดความสำคัญรถยนต์ ยกระดับจักรยาน

ในเดือนเมษายน 2563 นาย Elke van de Brandt รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแห่งบรัสเซลส์ (minister of mobility of the Brussels Capital Region) ได้ประกาศแผนการใช้ช่องทางสำหรับจักรยานแบบป๊อปอัพ (pop-up cycle lanes) ระยะทาง 40 กิโลเมตร เป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมระหว่างชานเมืองกับใจกลางเมือง ทำให้คนสามารถใช้จักรยานและคนเดินบนถนนได้ ต่อมาในเดือนกันยายนได้มีการประกาศเพิ่มอีก 10 กิโลเมตร และในขณะเดียวกันก็มีการสนับสนุนมาตรการระงับการจราจรในท้องถิ่น เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจหรือเข้าถึงร้านค้าและบริการได้อย่างปลอดภัย

เป็นความสำเร็จของการประกาศมาตรการที่เกี่ยวกับการใช้จักรยานชั่วคราวทั่วทั้งเมือง นับเป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสทองเลยจริงๆ

หนึ่งปีหลังจากการระบาดของ COVID-19 ก็มีถนนยาวเกือบ 60 กิโลเมตรที่เป็นมิตรกับคนเดิน และคนใช้จักรยาน ทั่วกรุงบรัสเซลส์ ตัวอย่างต่อไปนี้ แสดงให้เห็นว่าเมืองที่มีรถยนต์เป็นศูนย์กลางอย่างกรุงบรัสเซลส์เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและง่ายดายเพียงใด ในเวลาอันสั้นที่น่าประทับใจ

• Rue de la Loi: Brussels’ Ugliest Street ในกรุงบรัสเซลส์ Rue de la Loi เป็นถนนที่มีการจราจรหนาแน่นมาก แต่ก็ยังเป็นย่านที่คนใช้จักรยานมักแวะเวียนมามากที่สุด เพราะว่าเป็นจุดเชื่อมต่อหลักระหว่างย่าน European Quarter และศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมือง ต้นเดือนพฤษภาคม 1 ใน 4 ช่องจราจรที่ถูกเปลี่ยนเป็นเส้นทางจักรยานแบบสวนทาง ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับคนเดินถนนและปั่นจักรยาน ไม่กี่เดือนต่อมามีเส้นทางจักรยานแบบป๊อปอัพ ระยะทาง 2 กิโลเมตร ความกว้าง 10 เมตร ก็กลายเป็นเส้นทางจักรยานจากชานเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของบรัสเซลส์ไปยังยุโรป

• “Corona-Flowerpots” หรือ “กระถางดอกไม้โคโรนา” คือตัวอย่างที่น่าสนใจจาก Avenue Charles de Gaulle ริมสระน้ำ Ixelles เลือกที่จะใช้ “กระถางดอกไม้โคโรนา” ในการปิดถนนแทนแบริเออร์ที่เป็นพลาสติกหรือแท่นปูน เพื่อกั้นไม่ให้รถยนต์เข้าไปใช้พื้นที่ถนนและเป็นการเพิ่มพื้นที่สำหรับคนเดินเท้ามากขึ้น เมื่อทางเดินเท้ามากขึ้นก็สามารถลดความแออัดของคนเดินบนทางเท้าได้ อีกทั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้คนต้องการพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจในเมืองต่างๆ มากขึ้น ดังนั้นการเลือกใช้กระถางดอกไม้จึงตอบโจทย์ของคนในเมืองนี้

ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และได้รับความที่นิยม แต่มาตรการชั่วคราวเช่นนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการเดินทางอย่างแท้จริงและยาวนานมากน้อยเพียงใด ในปัจจุบันมาตรการในการใช้จักรยานของกรุงบรัสเซลส์ให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ คือ เมื่อเปรียบเทียบทั้งปี 2020 และปี 2019 ปริมาณการใช้รถจักรยานที่วัดโดยตัวนับอัตโนมัติในกรุงบรัสเซลส์เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจร้อยละ 64 ในขณะที่ปริมาณการใช้รถยนต์ลดลงร้อยละ 20

การเดินทางระหว่างบ้านและที่ทำงาน พบว่ามีการใช้จักรยานและการขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น และการใช้รถยนต์ลดลง และในขณะที่การขยายพื้นที่สำหรับคนเดินถนน และคนใช้จักรยานจะมีความขัดแย้งหรือแม้กระทั่งเกิดการฟ้องร้องขึ้น จากการสำรวจของสถาบันความปลอดภัยทางถนนของเบลเยียม (Belgian road safety institute VIAS) จัดทำขึ้นในเดือนธันวาคม พบว่าผู้เข้าร่วมร้อยละ 65 ประเมินว่ามีการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก และมีเพียงแค่ร้อยละ 17 ที่ประเมินแล้วให้ผลในเชิงลบ

บรัสเซลส์เป็นหนึ่งใน 309 เมืองในยุโรปที่ใช้จักรยานเป็นวิธีการป้องกันและฟื้นฟูเมืองจาก COVID-19 จากการติดตามของ European Cyclists’ Federation (ECF) การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วงปีที่ผ่านมา มีการจัดสรรเงินทุนเพิ่มเติมเกือบ 1.2 พันล้านยูโร ทั่วทั้งยุโรป สำหรับมาตรการส่งเสริมการใช้จักรยาน และจากมาตรการทางจักรยานที่ประกาศไว้ 2,570 กม. ได้มีการดำเนินการไปแล้วร้อยละ 55

กล่าวอีกนัยหนึ่ง การระบาดแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของ COVID-19 ได้ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง ข้อมูลเชิงลึกก่อนหน้านี้บอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่เมืองต่างๆ เช่น บรัสเซลส์จะสามารถสร้างสรรค์ระบบการสัญจรของตนขึ้นใหม่ได้ และขณะนี้กรณีของการลงทุนระยะยาวกับมาตรการชั่วคราวเหล่านี้ได้เกิดขึ้นจริงแล้ว เพราะได้มีจัดสรรงบประมาณ 458 ล้านยูโร สำหรับโครงสร้างพื้นฐานของการใช้จักรยานในแผนฟื้นฟูแห่งชาติ (National Recovery and Resilience Plan) ของเบลเยียมแล้ว อนาคตของการใช้จักรยานในกรุงบรัสเซลส์จึงดูสดใสกว่าที่เคยแน่นอน

อย่างบ้านเราในตอนนี้ ยกตัวอย่างเช่นกรุงเทพมหานคร ก็จะเห็นได้ว่ามีคนเริ่มใช้จักรยานเพื่อการเดินทางในระยะสั้นๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเราจะสังเกตเห็นได้จากจุดจอดจักรยานตามแนวรถไฟฟ้า ปากซอยหรือหน้าหมู่บ้านเป็นต้น สุดท้ายเราขอย้ำว่าแค่คุณเลือก เดินหรือปั่นจักรยาน สิ่งที่คุณจะได้คือ “สุขภาพดี ฟรี สะอาด ”

แหล่งข้อมูลและที่มา:

Aleksander Buczynski, March 18, 2021. One-Year Anniversary: Will the Pandemic Transform Brussels’ Mobility System for Good? สืบค้นจาก: https://ecf.com/news-and-events/news/one-year-anniversary-will-pandemic-transform-brussels%E2%80%99-mobility-system-good เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564

Print Friendly, PDF & Email
hasil jp mahjong ways 3menang fantastis wild mahjong winstunjungan scatter mahjong ways 2kejebak macet jp mahjong wins 3kemenangan fantastis mahjong ways membayarkan dp rumah ojol ini cuman pakai modal recehseperti punya tambang nikel sendiri mahjong ways 2 ini auto maxwin tiap harimantengin kuli kerja sambil ngespin mahjong wins 3 jp spektakuler dan traktir semua temennyacetak scatter mahjong wins 2 bikin pegawai minimarket ini auto gaya naik cbr barupembukaan langsung maxwin mahjong deposit receh tidak perlu formasilantas jepe maxwin mahjong kemudian tunggu sacatter hitam datang pasti gacor kalimahjong spek gacor sering terjadi bet 300an begitu lebih gampang menang maxwinstruktur jam gacor mahjong bikin gampang menang kantongi profit tebalslot gacorslot rtp gacorkaisar89