Home ข้อมูลความรู้ บทความ เดินมาก ถ้าอยากให้กระดูกแข็งแรง

เดินมาก
ถ้าอยากให้กระดูกแข็งแรง

ที่มาภาพจาก http://www.freepic.com/free-photo/man-standing-on-the-old-wooden-floor_1191544.htm

ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) มาตั้งแต่ พ.ศ.2548 จากการคาดการณ์ล่าสุดขององค์การสหประชาชาติในปีนี้ (2560) ไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ในราว พ.ศ.2567-2568

สิ่งหนึ่งที่ผู้สูงอายุโดยทั่วไปเผชิญคือการที่กระดูกอ่อนแอลง นพ.โยะชิโนริ นะงุโมะ เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระดูกบอกว่า กระดูกคนเราเป็นเหมือนธนาคารที่เก็บสะสมแคลเชียมเอาไว้ เมื่อแคลเซียมในเลือดลดลง ร่างกายก็จะนำแคลเซียมจากกระดูกมาใช้แทน แคลเซียมในกระดูกของคนเราจึงลดน้อยลงตามอายุที่เพิ่มขึ้นไป เนื่องจากแคลเซียมมีหน้าที่สำคัญในการสร้างกระดูก เมื่อมีการสลายแคลเซียมจากกระดูก มวลกระดูกจะลดลงจนเป็นเหตุของโรคกระดูกพรุนได้ สาเหตุที่แคลเซียมในกระดูกลดลงนี้เกี่ยวข้องกับปริมาณฮอร์โมนเพศที่ลดลง เพราะเดิมทีฮอร์โมนเพศ ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนเพศหญิงหรือเพศชายก็มี “ฤทธิ์เสริมสร้าง” ทำให้กระดูกแข็งแรงและกล้ามเนื้อบึกบึน ถึงแม้ผู้ชายจะใกล้วัย 80 ปี ปริมาณฮอร์โมนเพศชายที่ผลิตออกมาก็ไม่น้อยไปกว่าช่วงวัยรุ่น ในขณะที่ฮอร์โมนเพศหญิงจะเริ่มลดลงตั้งแต่อายุประมาณ 25 ปี และจะหยุดผลิตเมื่อผู้หญิงหมดประจำเดือนตอนอายุประมาณ 50 ปี นอกจากนั้น รศ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ยุกตะนันทน์ แพทย์ออร์โทปิดิกส์ จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย กล่าวว่า การสลายแคลเซียมจากกระดูกยังมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนเราด้วยได้แก่
– การสูบบุหรี่
– ดื่มแอลกอฮอล์
– ดื่มชา กาแฟ และช็อกโกแลต
– ดื่มน้ำอัดลม มีกรดฟอสฟอริกที่กัดกร่อนกระดูก
– ไม่ถูกแสงแดดซึ่งทำให้ขาดวิตามินดีที่ช่วยการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้
– ไม่ออกกำลังกาย

“เมื่อกระดูกเสียแคลเซียมไป การกินแคลเซียมเป็นอาหารเสริมแม้จะมากเพียงใดก็ไม่มีผลช่วยอะไรมากนัก เพราะปัจจัยหลักสำคัญคือการที่ผู้สูงอายุออกกำลังกายในปริมารที่ลดน้อยลง” คุณหมอนะงุโมะกล่าว
การออกกำลังกายที่สำคัญของผู้สูงอายุคือ “การเดิน”
“แรงโน้มถ่วง จะทำให้กระดูกเพิ่มปริมาณแคลเซียมในกระดูกได้ตามธรรมชาติ”
ผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะเดินน้อยลงเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น บางรายในแต่ละวันแทบไม่ได้มีการขยับตัวเลย ยิ่งทำให้ขาดแคลเซียมมากขึ้นไปอีก ส่งผลทำให้มีอาการปวดเข่าและปวดสะโพก พอปวดแล้วก็จะยิ่งเดินน้อยลงไปอีก เข้าสู่วงจรแย่ๆ จนกระดูกอ่อนแอลงไปเกินแก้ไขเดินด้วยขาตนเองไม่ได้ ต้องใช้รถเข็น

เมื่อผู้สูงอายุมีการเดินที่ไม่เพียงพอ กระดูกก็จะค่อยๆ เปราะบางลง กระดูกของผู้สูงอายุจะพรุนอยู่ที่การเดินมากกว่าการกินแคลเซียม
คุณหมอแนะนำว่า ถ้าอยากทำให้กระดูกแข็งแรงต้องเดินให้มากเป็นสองเท่าของคนทั่วไป เพราะแรงโน้มถ่วงจะทำให้กระดูกเพิ่มปริมาณแคลเซียมในกระดูกเพิ่มปริมาณแคลเซียมในกระดูกได้ตามธรรมชาติ ถ้าจะให้ดีต้องเดินมากๆ ตั้งแต่เด็กๆ เพื่อสะสมความแข็งแรงของกระดูก และฝึกให้มีนิสัยรักการเดิน เดินเป็นกิจวัตรอย่างสม่ำเสมอ

คุณหมอนะงุโมะมีอายุถึง 60 ปีแล้ว แต่อายุกระดูกที่ตรวจวัดได้ยังเพียงแค่ 28 ปี
คุณหมอรักการเดินเป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งคุณหมอบอกว่า การเดินน้อยในวัยเด็กที่สะสมมาจะมีผลอย่างยิ่งต่อรับความรุนแรงของโรคกระดูกพรุนเมื่ออายุมากขึ้น
ดังนั้น พ่อแม่ที่โอ๋ลูกมาก ไม่ยอมให้ลูกได้เดินไกลเพราะกลัวลูกเหนื่อย หรือกลัวลูกลำบาก ควรจะรีบเปลี่ยนความคิดใหม่
อย่าได้ทำร้ายสุขภาพของลูกในระยะยาวที่จะเดินด้วยขาตัวเองไม่ได้เมื่อมีอายุที่มากขึ้น
คุณหมอนะงุโมะชี้ว่า พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นจะฝึกให้ลูกเดินมากๆ
ถ้าบ้านกับโรงเรียนอยู่ไม่ไกลจากกันมากนักก็จะใช้วิธีเดินไปกลับแทนการนั่งรถไฟฟ้า
ถ้าขึ้นรถไฟฟ้าก็จะพยายามให้เด็กๆ ได้ยืนเพื่อฝึกกำลังขาและสะโพก เพราะการฝึกขาและสะโพกให้แข็งแรงตั้งแต่วัยเด็กจะเป็นตัวกำหนดความแข็งแรงของกระดูกไปตลอดชีวิต
รู้อย่างนี้ แต่ละวันเดินให้มากขึ้นดีกว่าก่อนที่จะใช้ขาตัวเองเดินไม่ได้ และชักชวน สร้างเงื่อนไขเอื้ออำนวย ให้ลูกหลานและคนรอบข้างเรา ไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด เดินให้มากขึ้นด้วยนะครับ

ที่มา: นิตยสารหมอชาวบ้าน ปีที่ 39 ฉบับที่ 466 กุมภาพันธ์ 2561

 

Print Friendly, PDF & Email
cita cita beli mobil tercapai jp sensasional mahjong wins jadi penyelamatkeuntungan strategis main mahjong ways 3 sambil ngopi nyantai tapi cuan maksimalgila banjir wild di mahjong ways cairkan pajero buat sales baru ga kepanasan lagiinspirasi menang mahjong untuk bayar kontrakan cicilan motor segala macammain mahjong saat jam istirahat kuli bangunan merasakan maxwin viral ditengah kotaslot gacorslot rtp gacorkaisar89