แนะนำชมรม
วันเกิดชมรมฯ
ศ.กิตติคุณ ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์
ปรับปรุงจากจดหมายข่าวชมรมฯ
ฉบับประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ ปีที่ ๘ ฉบับที่ ๙๒ หน้า ๑๐
สอบถามกันมาหลายครั้ง ทั้งจากสมาชิกและกรรมการ(รุ่นหลังๆ)รวมทั้งจากสื่อมวลชนด้วย ว่าชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทยก่อตั้งมาจริงๆตั้งแต่เมื่อไร ลุงแดง(คุณวิรัช)หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งได้ไปค้นรูปภาพเก่าๆเอามาเป็นหลักฐาน จึงได้รู้ว่าวันก่อกำเนิดของชมรมฯก็คือ 16 มีนาคม 2534 วันนั้นมีคนรักจักรยาน(และสิ่งแวดล้อมด้วย)ประมาณ 40 คน รวมตัวกันขี่จักรยานจากสวนลุมพินีไปที่สวนจตุจักร ระหว่างทางก็แวะเวียนช่อง 3, ช่อง 9, ช่อง 5 และช่อง 7
ผลหรือครับ
ไม่ค่อยจะมีช่องไหนสนใจเลย
แต่เราก็ไม่ย่อท้อ เราตั้งเป็นชมรมฯกันวันนั้นเลย โดยมีแนวคิดว่าการที่เรารณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมและจักรยาน โดยทำไปในฐานะตัวบุคคล(แม้จะหลายคน) มันคงไม่ได้ผล คนคงไม่ฟัง แต่ถ้าตั้งเป็น ชมรมฯก็คงฟังดูน่าเชื่อถือและมีหลักการดี ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เพราะในการรณรงค์ครั้งที่สองในปลายปีนั้นคือปี 2534 นั่นเองเราเรียกความสนใจจากสื่อมวลชนได้พอสมควร มีข่าวออกสู่ประชาชนทั้งในรูปของนสพ.และวิทยุ ในการรณรงค์ครั้งที่สองนั้นมีผู้คนขี่จักรยานทุกรูปแบบ ทั้งเสือหมอบ รถแม่บ้าน บีเอ็มเอ็กซ์ รถจักรยานขนของ รถจักรยานไทยประดิษฐ์ มาร่วมงานถึง 500 กว่าคัน(ห้าร้อยจริงๆ) มากขึ้นจากเดิมสิบกว่าเท่า
หมายเหตุ: สมาชิกรุ่นร่วมก่อตั้งชมรมฯในวันนั้นเท่าที่จำได้นอกจากอ.ธงชัยและป้าหนุยแล้ว ก็มีลุงแดง อาสุทธิชัย ป้อ(จิรายุทธ) ลุงนำชัย ป้าหมา(ผมจำชื่อไม่ได้ แต่เรามักเรียกเขาว่าอย่างนั้นเพราะเวลาแกไปไหนมาไหน ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งการกุศล วิ่งมาราธอนหรือขี่จักรยาน แกต้องมีหมาวิ่งตามอยู่ข้างๆ 3-4 ตัวเสมอ)และอีกหลายๆคนที่จำไม่ได้ แต่ดูจากรูปก็พอจะบอกได้บ้างว่าใครเป็นใคร
——————————————————————————————————
จดหมายจากสมาชิก
ศ.กิตติคุณ ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์
ปรับปรุงจากจดหมายข่าวชมรมฯ
ฉบับประจำเดือนมกราคม ๒๕๔๕ ปีที่ ๑๑ ฉบับที่ ๑๒๗ หน้า ๑๔
ถึงสมาชิกชมรมฯทุกคน
กระผมเป็นสมาชิกตลอดชีพคนหนึ่งของชมรมจักรยานฯที่มีโอกาสเห็นความพัฒนาเปลี่ยนแปลงของชมรมฯมาตั้งแต่ช่วงต้นๆ(ตั้งแต่ปี 2537) ตอนนี้ชมรมฯก็มีอายุเกิน 10 ขวบแล้ว(นับถึงปี 2545) นึกย้อนหลังไปในยุคที่กระผมได้เข้ามาเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวจักรยานอันแสนอบอุ่นนี้ ตอนนั้นกลับมาจากต่างประเทศใหม่ๆ เพื่อนที่รักคนหนึ่งชวนไปร่วมขี่จักรยานรณรงค์อะไรก็จำไม่ได้แล้วแถวลานหน้าสวนอัมพร กระผมก็รับปากไปโดยไม่ต้องคิดมาก เพราะเราก็ชอบขี่จักรยานมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพียงแต่แปลกใจว่าเดี๋ยวนี้(นั้น)เมืองไทยมีคนรวมตัวกันขี่จักรยานเป็นเรื่องเป็นราวกันขนาดนี้เลยหรือ แล้วพอไปร่วมกิจกรรมจริงก็ต้องแปลกใจมากขึ้นไปอีก เพราะไม่คิดว่าจะมีคนมาร่วมเยอะขนาดนี้ ดูไปรอบๆก็สะดุดตากับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเขากำลังมุงดูอะไรซักอย่าง ตรงกลางวงมีสาวสวยคนหนึ่ง เดินเข้าไปมุงกับเขาถึงได้ทราบว่าหญิงสาวคนนั้นกำลังรับสมัครสมาชิกชมรมจักรยานฯ อัตราค่าสมาชิกก็ถูกมาก แค่ 100 บาทเท่านั้นเอง กระผมก็เลยสมัครเป็นสมาชิกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา(คนรับสมัครวันนั้นก็คือ ป้าหนุย นั่นเอง)
ชมรมฯจากวันนั้นถึงวันนี้มีวิวัฒนาการดีๆหลายอย่าง แต่อย่างหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับกระผมก็คือ จดหมายข่าวฉบับที่ท่านถืออยู่ในมือนี้ไงขอรับ จดหมายข่าวฉบับแรกที่ผมได้รับเมื่อปี 2537 มีคุณฮง(พรชัย ลีลานุภาพ)เป็น บก. เป็นกระดาษถ่ายเอกสาร 2 แผ่น 4 หน้า เย็บลวดตรงมุมแล้วก็มีการเพิ่มจำนวนหน้ามากขึ้นเป็นลำดับ เนื้อหาภายในก็น่าสนใจ หลากหลายมากขึ้น คุณภาพก็ดีขึ้น
อีกอย่างหนึ่งที่เห็นชัดๆก็คือโลโก้ชมรมฯที่มีพัฒนาให้ทันยุคทันสมัยมากขึ้นเรื่อยๆ
![]() |
โลโก้แรก ไม่ทราบว่าใครเป็นคนออกแบบ |
![]() |
โลโก้ที่สอง เป็นโลโก้อย่างเป็นทางการของชมรมฯ ออกแบบโดยคุณรัชชุบล(ปิ๋ม) เมื่อเดือน พ.ค.37 |
![]() |
โลโก้ที่สาม เป็นโลโก้ปัจจุบันที่ใช้ทั่วไป เช่น บนสินค้าของชมรมฯ ออกแบบโดย คุณฤทธิ์(ปลา) เมื่อเดือน ต.ค.43 |
![]() |
หมายเหตุ: แต่มาในปี 2554 เราก็มีโลโก้ใหม่ขึ้นอีกครั้งเป็นชิ้นที่ 4 ซึ่งออกแบบโดย คุณฤทธิ์ เกษตรสุวรรณ อาร์ติสคนเก่งของชมรมจักรยานฯเช่นเคย |
![]() |
และในปี 2555 เราก็ได้มีแบรนด์สำหรับการรณรงค์ด้านการเดินและการใช้จักรยานในวิถีชีวิตของคนไทยเพิ่มขึ้นมาอีกชุด จุดประสงค์เป็นแบรนด์‘เปิด’ที่ใครก็ได้สามารถนำไปใช้ในการรณรงค์ทั้งในระดับชุมชน ระดับองค์กร และระดับชาติ |
——————————————————————————————————
จดหมายประวัติศาสตร์
ศ.กิตติคุณ ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์
ปรับปรุงจากจดหมายข่าวชมรมฯ
ฉบับประจำเดือนมกราคม ๒๕๔๕ ปีที่ ๑๐ ฉบับที่ ๑๑๕ หน้า ๑๐
หลายคนเคยถามผมว่าประวัติความเป็นมาของชมรมจักรยานฯเรานี่มีมาอย่างไร บังเอิญผมได้ไปพบจดหมายฉบับแรกที่ลุงแดงมีมาถึงผมเมื่อ 11 ปีที่แล้ว(นับถึง พ.ศ.2544 ซึ่งเป็นวันที่เขียนต้นฉบับ) คือสองสามวันก่อนที่ลุงแดงจะมีจดหมายถึงผม ผมได้เอาจักรยานขึ้นหลังคารถยนต์(สมัยนั้นมีรถยนต์ของผมคันเดียวในประเทศที่บรรทุกจักรยานบนหลังคาได้)กะจะไปซ้อมที่บ้านรังสิต ระหว่างทางได้เจอคนขี่จักรยานอยู่ข้างทางสามคน ในใจยังนึกว่าเป็นญี่ปุ่นเลย เพราะสมัยนั้นหาคนขี่จักรยานแบบพวกเราสมัยนี้ยากมากๆๆ ผมจึงจอดรถทักทาย และได้ดีใจขึ้นไปอีกเพราะพบว่าเป็นคนไทย ไม่ใช่คนต่างชาติอย่างที่คิด ที่ดีใจก็เพราะได้พบคนชอบของเหมือนๆกัน สามคนที่ว่านั่นคือ ลุงแดง อาสุทธิชัย และอาสำเริง จากนั้นลุงแดงก็เขียนจดหมายมาหาผมดังข้างล่างนี้
97/5 บ้านพักรถไฟ กม.11 ถนนวิภาวดีรังสิต ลาดยาว กทม.
วันที่ 21 ตุลาคม 2533
สวัสดีครับ
วันนั้นหลังจากผมสามคนแยกจากอาจารย์มาแล้ว ผมพยายามทบทวนว่าเคยเห็นอาจารย์ที่ไหนหรือเคยผ่านชื่อของอาจารย์มาจากที่ไหน จนกลับมาถึงบ้านในบ่ายวันรุ่งขึ้นรีบเปิดดูหนังสือ‘รันนิ่ง’ คิดว่าคำตอบคงอยู่ในหนังสือนี้แน่ และก็เป็นตามที่คิดนั้นจริงๆ คือเคยเห็นอาจารย์ในรูปปกหนังสือรั่นนิ่งเล่ม 1 นั่นเอง และได้เคยอ่านบทความของอาจารย์ตั้งแต่เล่ม 1 ถึงเล่ม 4 เพื่อนผมคนที่อาจารย์เรียกไต่ถามการเดินทางเป็นคนแรกยังได้นำเอาวิธีฝึกวิ่งของอาจารย์ในรันนิ่งเล่ม 4 ตอนได้หนังสือมาใหม่ๆไปฝึกวิ่ง 10 กม.เพื่อเตรียมลงวิ่งในวันยูเอ็นเดย์ ที่ 28 ต.ค.นี้
พวกผมสามคนดีใจมากที่มีโอกาสได้รู้จักกับอาจารย์เป็นการส่วนตัวอย่างนึกไม่ถึงและหวังว่าคงจะได้พบกับอาจารย์อีกในโอกาสต่อไป โดยเฉพาะในวันยูเอ็นเดย์ อาจารย์คงไปร่วมงานแน่ ผมสามคนได้สมัครลงวิ่งด้วย
วันเดินทางวันนั้น พวกผมไปถึงวัดเจดีย์หอยเกือบ 16 นาฬิกา ขี่ไปช้ามาก ทวนลมตลอดทาง ขี่ไปเกือบถึงอำเภอลาดหลุมแก้ว ทางเข้าวัดแยกไปจากถนนใหญ่ตลอดระยะ 11 กม.เป็นถนนดิน ขรุขระเต็มไปด้วยหลุมบ่อไม่มีชิ้นดีเลย ผมคิดว่าถ้าไปด้วยจักรยานเสือหมอบคงไปไม่ถึงแน่ เมื่อถึงวัดแล้วกางเต็นท์พักกันที่วัด ได้ร่วมฉลองงานกฐินของทางวัดกันเล็กน้อย ได้ชมสุสานหอยนางรมขนาดยักษ์ซึ่งถูกฝังอยู่ใต้ดิน และถูกขุดขึ้นมามากมายนับไม่ถ้วน พักอยู่หนึ่งคืนวันรุ่งขึ้นรีบเดินทางกลับแต่เช้า อาจารย์เคยไปวัดนี้หรือไม่ ถ้าไม่เคยน่าจะลองไปดูนะครับ อย่างน้อยก็ได้รับอากาศบริสุทธิ์จากท้องทุ่ง ได้ร่วมทำบุญสร้างวัดใหม่ แถมได้ชมของแปลกที่หาที่อื่นดูไม่ได้
ผมขอจบเพียงเท่านี้ก่อน สุดท้ายขอให้อาจารย์จงมีความสุขกาย สุขใจ พลานามัยสมบูรณ์
นับถือ
วิรัช แอบกลิ่นจันทน์
หมายเหตุ: วงการและสังคมจักรยานในประเทศไทยได้พัฒนาขึ้นมากมายในช่วงยี่สิบปีเศษที่ผ่านมา จดหมายฉบับนี้อาจใช้สำหรับการอ้างอิงว่าสังคมจักรยานไทยยุคใหม่ได้เริ่มต้นมาอย่างไร
——————————————————————————————————
รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งได้จัดขึ้นทุกๆ 2 ปี เพื่อยกย่องและประกาศเกียรติคุณของแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก กิจกรรม หน่วยงาน โครงการ และสื่อ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ตลอดจนกระตุ้นให้เกินความร่วมมือในการรักษาและพัฒนาทรัพยากรของประเทศในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และบุคลากร รางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนับเป็นรางวัลเกียรติยศที่ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากองค์การท่องเที่ยวแห่งโลก (World Tourism Organization –WTO)
ความหมายของกินรี
กินรีเป็นสัตว์หิมพานต์ ที่รู้จักกันกีในวรรณคดีไทย เป็นตัวแทนความสวยงามและบริสุทธ์ มือที่ถือดอกบัว แทนการมอบความสะอาด สูงค่า และนกพิราบสื่อถึงสันติภาพ ภราดรภาพ อันเป็นทิศทาง ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่รับใช้สังคมและสภาพแวดล้อม
รางวัลรองชนะเลิศประเภทโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวปี พ.ศ. 2540
รางวัลดีเด่นประเภทองค์กรส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว ปีพ.ศ. 2545
Leave a Reply